Last updated: 24 มิ.ย. 2568 | 10 จำนวนผู้เข้าชม |
SHM ช่วยลดความเสี่ยงจากอาคารถล่มได้ถึง 70%
ในอดีต เวลาที่อาคารถล่มหรือโครงสร้างเสียหายอย่างรุนแรง มักจะเกิดจาก “ความผิดปกติเล็กๆ” ที่ไม่ได้รับการสังเกต เช่น รอยร้าว, การทรุดตัวของฐานราก, หรือแรงสั่นสะเทือนสะสมจากการใช้งานเป็นเวลานาน ซึ่งปัญหาเหล่านี้ แทบมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า และกว่าจะรู้ตัว ก็สายเกินไป
นี่คือเหตุผลที่เทคโนโลยี SHM – Structural Health Monitoring
ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อ “ตรวจจับอาการผิดปกติ” เหล่านี้แบบเรียลไทม์ โดยไม่ต้องรื้อหรือทำลายโครงสร้าง
SHM ช่วยลดความเสี่ยงได้ยังไง?
✅ ติดตั้งเซ็นเซอร์ไว้ตามจุดสำคัญของโครงสร้าง
เช่น คาน เสา พื้น ฐานราก เพื่อวัดค่าต่างๆ เช่น แรงกด, การสั่นสะเทือน, รอยร้าว, หรือการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้าง
✅ แจ้งเตือนทันทีเมื่อมีสิ่งผิดปกติ
ระบบ SHM จะส่งสัญญาณเตือนให้เจ้าของอาคารหรือวิศวกรทราบทันทีหากมีค่าผิดปกติ เพื่อให้ตรวจสอบหรือแก้ไขก่อนจะเกิดอุบัติเหตุ
✅ สะสมข้อมูลเพื่อวิเคราะห์แนวโน้มในระยะยาว
ช่วยให้เห็นภาพว่าโครงสร้างมีการเสื่อมหรืออ่อนแรงอย่างไรบ้าง และควรวางแผนซ่อมแซมหรือเสริมความแข็งแรงเมื่อใด
ผลวิจัยจากหลายประเทศพบว่า
“อาคารที่ติดตั้งระบบ SHM สามารถลดความเสี่ยงจากการถล่มหรือความเสียหายรุนแรงลงได้ มากถึง 70%
โดยเฉพาะในอาคารสูง, โรงงาน, สะพาน, หรือพื้นที่เสี่ยงแผ่นดินไหว”
ใครควรติดตั้ง SHM?
✅ อาคารสูง / อาคารสาธารณะ
✅ โครงการที่ใช้งานมากกว่า 10 ปี
✅ โรงงานอุตสาหกรรม
✅ สะพาน, อุโมงค์, หรือโครงสร้างที่รับน้ำหนักมาก
✅ อาคารในพื้นที่เสี่ยงภัยพิบัติ เช่น แผ่นดินไหว, น้ำท่วม, ดินถล่ม
SHM ไม่ใช่เทคโนโลยีที่ “มีไว้ก็ได้ ไม่มีก็ไม่เป็นไร” แต่คือ ตัวช่วยสำคัญในการรักษาชีวิตและทรัพย์สิน
เพราะอาคารไม่ถล่มในวันเดียว — แต่ความเสียหายค่อยๆ สะสม และ SHM คือ “ดวงตาที่คอยจับตา” ความผิดปกตินั้นก่อนที่มันจะกลายเป็นภัยร้ายแรง
7 มิ.ย. 2568
7 มิ.ย. 2568